Blighted Ovum
ครรภ์ไข่ฝ่อ เป็นการตั้งครรภ์จริงๆ
ที่เกิดขึ้นจากการปฏิสนธิของไข่กับเชื้ออสุจิ เพียงแต่ว่าการเจริญเติบโตของการตั้งครรภ์นั้นไม่สมบูรณ์แบบ
คือมีแต่รกกับถุงน้ำคร่ำแต่ไม่มีเด็กหรือการตั้งครรภ์โดยไม่มีเอ็มบริโอ (Anembryonic)
จะพบระหว่างสัปดาห์ที่ 8 -13 ของการตั้งครรภ์
ภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวเด็ก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า“ไข่ฝ่อ” ( Blighted Ovum ) อธิบายได้ง่าย ๆ คือ ตัวอ่อนของมนุษย์
เกิดจากเชื้ออสุจิผสมกับไข่ หลังจากปฏิสนธิแล้ว จะแบ่งตัวต่อไปเรื่อย ๆ
จาก 1 เป็น 2 , 4 , 8 , …จนมีเซลล์มากมาย เมื่อถึงระยะหนึ่ง ก็จะแยกเซลล์ออกเป็น
2 กลุ่ม เซลล์กลุ่มหนึ่งเจริญไปเป็นส่วนของรก
เซลล์อีกกลุ่มหนึ่งเจริญเป็นตัวเด็ก แต่เซลล์กลุ่มที่เจริญเป็นตัวเด็กมีปัญหาทำให้แบ่งตัวต่อไปไม่ได้หยุดการเจริญเติบโตเสียก่อน
สาเหตุที่พบบ่อยคือไข่หรืออสุจิที่มาผสมกันไม่แข็งแรงพอหรือมีคุณภาพไม่ดีพอ ซึ่งอาจเกิดจากโครโมโซมที่ผิดปกติของเซลล์กลุ่มนั้น หรือ เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมของทารก
สาเหตุของความไม่แข็งแรงหรือคุณภาพที่ไม่ดีของไข่และอสุจิมีมากมาย
อาจเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก เครียด รับประทานอาหารไม่เพียงพอ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีโรคบางชนิดที่ยังไม่ได้รับการตรวจอย่างจริงจัง
นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่ผิดปกติของไข่หรืออสุจิก็ได้
การวินิจฉัย
การตรวจอัลตราซาวด์ผ่านทางช่องคลอด
และต้องเข้ารับการตรวจซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง
พบแต่ถุงน้ำโดยไม่พบเด็ก ซึ่งปกติแพทย์จะนัดมาตรวจซ้ำ ถ้าหากไม่พบเด็กจริงๆ ก็จะรอให้เกิดการแท้งมาเองหรือไม่ก็ขูดมดลูกเอาออก
อาการ
อาการที่พบบ่อยที่สุดพบว่ามีเลือดออกกะปริดกะปรอย
ในครรภ์อ่อนๆ ตอนอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
แพทย์อาจวินิจฉัยว่าเป็นแท้งคุกคาม (Threaten abortion) แต่กรณีที่คนท้องไม่มีเลือดออกกะปิดกะปรอยเลย
ก็มีบ้าง คือ 10-20% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตอนอายุมากกว่า
35 ปี
แนวทางแรก ถ้าอายุครรภ์น้อยกว่า
12 สัปดาห์ให้ทำการขูดมดลูกในห้องผ่าตัด โดยมีการดมยาสลบ
ข้อเสีย คืออาจรู้สึกเจ็บบ้างหลังการขูดมดลูก แต่ข้อดี คือ การขูดมดลูกจะทำให้การแท้งออกมาครบเลย
ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการตกเลือด
แนวทางที่ 2 สูติแพทย์อาจให้ยาเหน็บทางช่องคลอด ยารับประทาน หรือยาอมใต้ลิ้น เพื่อทำให้แท้งออกมา
แต่ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้ดูแล และติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ซึ่งอาจแท้งออกมาครบเลยโดยไม่ต้องทำการขูดมดลูก
แนวทางที่ 3 คือ รอให้แท้งออกมาเอง แต่ต้องใช้เวลาและติดตามดูตลอดเวลา
โดยทั่วไปไม่เกิน 3 สัปดาห์หลังจากมีเลือดออก จะมีการแท้งออกมา
แต่ในบางกรณีการรออาจเสี่ยงต่อการตกเลือด ทำให้เกิดความไม่สบายใจ และเสี่ยงต่อ
“ภาวะแท้งค้าง”
หลังจากการขูดมดลูก งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการขูดมดลูก
เพื่อป้องกันการตกเลือดและการติดเชื้อและควรมีการคุมกำเนิดไว้ก่อนอย่างน้อย 3
เดือน
การรักษาภาวะไข่ฝ่อ ยังไม่มียาหรือวิธีการรักษาอะไรที่ชัดเจนในการที่จะป้องกันภาวะนี้
แต่ถ้าเกิดซ้ำ ๆ กัน คงต้องตรวจหาสาเหตุอื่นด้วย เช่น โพรงมดลูกผิดปกติ มีการอักเสบติดเชื้อ
หรือมีภูมิต้านทานผิดปกติ เป็นต้น เมื่อพบสาเหตุแล้วให้การรักษา
มักจะมีบุตรได้ตามปกติ วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาตัวเอง ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีได้สัดส่วน
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเหมาะสม ไม่ทำงานหักโหมเกินไปและพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น